หุ้น BKA เปิดเทรดวันแรกที่ 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 33.33% จากราคา IPO 1.80 บาm
บล.ทิสโก้ ระบุว่า บมจ.บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป [BKA] ประกอบธุรกิจบ้านแต่ง (ปรับปรุงบ้านมือสองก่อนขาย) ธุรกิจบ้านฝาก (นายหน้าซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ และรับฝากขาย) และธุรกิจบ้านตัด (ซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขายต่อ
โดยมุมมองของเรา มองว่ารายได้ปี 68 ยังถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ใน ปี 67 ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการคัดเลือกบ้านที่มีศักยภาพและให้ผลตอบแทนสูง ช่วยชดเชยปริมาณขายที่ลดลงได้ ซึ่งคาดว่าปีนี้บริษัทจะยังคงรักษาระดับราคาขายไว้ได้
ทั้งนี้ จากกลยุทธ์เน้นคุณภาพของสินทรัพย์ เรามองว่าผลประกอบการ ปี 68 บริษัทจะยังระดับอัตรากำไรไว้ในระดับสูงได้เหมือนปี 67 ที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในทุก Segment อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบ้านตัดต่อหลังเพิ่มขึ้นโดดเด่น จากการเน้นขายบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีต้นทุนค่อนข้างถูกผ่านการประมูลจากกรมบังคับคดี ขณะที่คาดว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะใกล้เคียงกับ ปี 67
ขณะที่ความเสี่ยงที่สำคัญ 1. ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าจ้างผู้รับเหมา 2. ความล่าช้าของการปรับปรุงบ้านและคุณภาพงานของผู้รับเหมา 3. ความเข้มงวดด้านสินเชื่อ
จากการประเมินมูลค่าเบื้องต้นด้วย PER ย้อนหลัง 1 ปี ของกลุ่ม PROPCON ใน mai ที่ 14.5x เท่า มองว่า มูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 68 ของบริษัท ณ ราคา IPO ยังมี Upside
